ระบบอินเตอร์เน็ตเชื่อมต่อทุกสิ่ง (IoT)
ช่วยพัฒนาการดูแลสุขภาพให้ดีขึ้น
เทศบาลเมืองแสนสุข ประเทศไทย มุ่งหน้าสู่การพัฒนาบริการดูแลสุขภาพสำ หรับผู้สูงอายุในพื้นที่ไปแล้ว 50% ด้วยการใช้ The Internet of Things (IoT) ระบบอินเตอร์เน็ตเชื่อมต่อทุกสิ่ง ในอุปกรณ์ติดตามสุขภาพแบบสวมใส่ได้ อ่านบทความ >> แสนสุข สมาร์ทซิตี้ (Smart city)
ความต้องการทางธุรกิจ
เนื่องด้วยจำนวนประชากรผู้สูงอายุในพื้นที่มีอัตราเติบโตเพิ่มสูงขึ้น เทศบาลเมืองแสนสุขจึงต้องหาวิธีตอบสนองความต้องการด้านการดูแลสุขภาพที่สอดคล้องกับจำนวนประชากร ควบคู่ไปกับการควบคุมค่าใช้จ่ายที่เหมาะสม
ผลลัพธ์ทางธุรกิจ
-ตอบสนองการดูแลสุขภาพสำหรับผู้สูงอายุในพื้นพื้นที่ได้รวดเร็วขึ้น 50%
-แพลตฟอร์ม IoT ที่มีประสิทธิภาพ ได้รับความน่าเชื่อถือ 100%
-90% ของผู้สูงอายุที่ใช้บริการ มีความพึงพอใจเป็นอย่างมากกับระบบ IoT
-สัดส่วนของความต้องการพยาบาลต่อจำนวนประชากรในพื้นที่ลดลง ช่วย ลดค่าใช้จ่ายในการดูแล สุขภาพในบ้าน
-14% ของผู้อาศัยในเทศบาลเมืองแสนสุขเป็นผู้ที่มีอายุเกิน 80 ปี ซึ่งจะ ได้รับประโยชน์จากเทคโนโลยีน
-ผู้สูงอายุสามารถใช้งานได้อย่างเชี่ยวชาญภายในไม่กี่นาที โดยแทบจะ ไม่มีความจำเป็นต้องฝึกฝน
แนวทางแก้ปญหาอันรวดเร็ว
-ระบบอินเตอร์เน็ตเชื่อมต่อทุกสิ่ง
-ระบบ OEM
-โครงสร้างพื้นฐานแบบแยกส่วน
-ระบบจัดเก็บข้อมูล
-ระบบปฏิบัติการแบบครอบคลุม
Cr:PraChaChatOnline
เมื่อเทียบกับประชากรทั้งโลก ประชากรในกลุ่มประเทศแถบภูมิภาคเอเชียแปซิฟิคจะเข้าสู่วัยชราเร็วที่สุด จากรายงานของ Asia Pacific Risk Center ในปี 2030 จะมีประชากรในภูมิภาคนี้จำนวน 200 ล้านคนที่ถูกนับเป็นผู้สูงอายุ ซึ่งจะสร้างแรงกดดันมหาศาลต่อบริการดูแลสุขภาพ ผลสำรวจนี้จึงเป็นความท้าทายอันใหญ่หลวงสำหรับรัฐบาลของแต่ละประเทศและเทคโนโลยีคือทางออกที่หลายประเทศเริ่มหันมาให้ความสำคัญ
Cr:YouTube.com/iT24Hrs
ความท้าทายที่เกิดขึ้น
เทศบาลเมืองแสนสุข ประเทศไทย ได้ใช้ระบบอินเตอร์เน็ตเชื่อมต่อทุกสิ่ง (The Internet of things : IoT) เพื่อรองรับปัญหายุ่งยากต่างๆ ของกลุ่มประชากรผู้สูงอายุ เนื่องจากกลุ่มผู้บริหารได้เล็งเห็นว่างบประมาณสำหรับบริการดูแลสุขภาพผู้สูงอายุในแต่ละปีสูงถึง 5 พันล้านบาท (143 ล้านเหรียญสหรัฐ) และมีแนวโน้มที่จะเพิ่มสูงขึ้น โดยงบประมาณส่วนหนึ่งมาจากความต้องการบ้านพักคนชราเพื่อรองรับจำ นวนผู้สูงอายุที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง เทศบาลเมืองแสนสุขจึงหาทางออกที่ทำ ให้ผู้สูงอายุเหล่านี้สามารถใช้ชีวิตอยู่ที่บ้านได้ บริการติดตามสุขภาพในบ้านจึงเป็นทางออก เพื่อลดความตึงเครียดที่เกิดขึ้นจากการอยู่อาศัยในบ้านพักคนชรา นอกจากนี้ยังเป็นการช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการบริการในบ้านพักคนชราอย่างยั่งยืนด้วย
บริการติดตามสุขภาพในบ้านคือเป้าหมายสำคัญ
กลุ่มผู้บริหารได้เปิดตัวโครงการแสนสุข สมาร์ท ซิตี้ เพื่อพัฒนาบริการติดตามสุขภาพในบ้านและบ้านพักคนชรา มีจุดมุ่งหมายเพื่อช่วยให้ผู้สูงอายุใช้ชีวิตได้ตามปกติด้วยการสวมใส่อุปกรณ์ที่จะส่งสัญญาณเตือนเมื่อผู้สวมใส่ล้มลง โดยได้รับความร่วมมือจากมหาวิทยาลัยบูรพา ซึ่งเป็นหนึ่งในมหาวิทยาลัยรัฐบาลชั้นนำ ในการริเริ่มและดำเนินการวิเคราะห์ความเป็นไปได้ (Proof of concept: POC) โดยมี รองศาสตราจารย์วิรุฬห์ ศรีิบริรักษ์ จากคณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยบูรพา เป็นผู้เริ่มพัฒนาระบบ IoTภายใต้การสนับสนุนทางการเงินจาก NIA และ TRF รศ.วิรุฬห์ ได้ร่วมมือกับบริษัทสตาร์ทอัพที่ชื่อBAESLab ในการสร้างอุปกรณ์อัจฉริยะขนาดเล็ก สำหรับสวมใส่ที่จะส่งสัญญาณเตือนเมื่อตรวจพบว่าผู้สวมใส่ล้มลง
ผลสำเร็จเมื่อระบบ IoT สามารถใช้งานได้จริง
รศ.วิรุฬห์ ต้องการระบบโครงสร้างพื้นฐานของ IoT ที่เชื่อถือได้และคุ้มค่ากับงบประมาณ เพื่อรองรับการทำงานของอุปกรณ์สวมใส่ เขากล่าวว่า “เราได้ลองทดสอบกับกลุ่มผู้ขายจำนวนมาก แต่มีเพียง Dell และ Intel เท่านั้น ที่ตอบโจทย์ตามที่เราต้องการ” ยิ่งไปกว่านั้น รศ.วิรุฬห์ ยังชื่นชอบกลยุทธของ Dell ในการเป็นส่วนหนึ่งของระบบ IoT เพื่อสิ่งแวดล้อม ด้วยการผสานความร่วมมือกับบริษัทอย่าง Intel และเหล่าผู้พัฒนาซอฟท์แวร์ทั่วโลก เขากล่าวว่า “เรามองเห็นคุณค่าของสิ่งสำ คัญที่ Dell วางแผนไว้สำ หรับระบบ IoT ที่ใช้งานได้จริง รวมถึเสถียรภาพของระบบโดยรวม นอกจากนี้ รูปแบบธุรกิจที่รับจ้างผลิตชิ้นส่วนให้กับแบรนด์อื่นๆ (OEM) ของ Dell เอง ก็สามารถสนับสนุน BAESLab ในการสร้างสรรค์ซอฟท์แวร์ของระบบได้เป็นอย่างดี ซึ่งทำ ให้กระบวนการพัฒนาทั้งหมดก้าวหน้าไปอย่างรวดเร็วขึ้น”
ทางออกที่ยืดหยุ่นและง่ายต่อการวัดผล
รศ.วิรุฬห์ ทำ งานร่วมกับ BAESLab ในการสร้างระบบโครงสร้างพื้นฐานของ IoT จากเทคโนโลยีของ Dell ดังต่อไปนี้:
–Dell Wyse 3030 iSeries ที่มี Intel Processors สำหรับใช้งานในบ้าน ทำ งานในลักษณะของอุปกรณ์เกต์เวย์ IoTและเราเตอร์เชื่อมต่ออินเตอร์เน็ต
–Dell Edge Gateway 5000 ที่มี Intel Processors ที่ปล่อยสัญญาณได้กว้างกว่า สำหรับใช้งานในบ้านพักคนชรา ทำงานในลักษณะของอุปกรณ์เกต์เวย์ IoT และเราเตอร์เชื่อมต่ออินเตอร์เน็ต
-Dell PowerEdge VRTX แพลตฟอร์มโครงสร้างพื้นฐานแบบแยกส่วน พร้อมด้วยเซิร์ฟเวอร์และระบบจัดเก็บข้อมูล เพื่อประมวลผลข้อมูลจากเกต์เวย์และส่งสัญญาณเตือนไปยังญาติและบริการฉุกเฉินผ่านทางผู้ให้บริการเครือข่ายโทรศัพท์ในพื้นที่
คลิก>> รายละเอียด Dell IoT Gateway
Spec Sheet Download >> dell-iot-gateway-and-embedded-pc-ssanetwork
ระบบดังกล่าวนี้เป็นการเชื่อมต่อเกตเวย์ของ Dell ในบ้านหรือบ้านพักคนชรา เพื่อส่งสัญญาณเตือนและให้ข้อมูลเมื่อเกิดเหตุฉุกเฉิน ในกรณีที่ผู้สวมใส่อุปกรณ์ล้มลง อุปกรณ์จะส่งข้อมูลผ่านบลูทูธไปยังเกตเวย์ IoT ก่อนที่เกตเวย์จะส่งข้อมูลไปยังระบบจัดการหลังบ้านบน Dell PowerEdge VRTX แพลตฟอร์ม ซึ่งจะส่งข้อความเตือนไปยังโทรศัพท์มือถือของญาติ และบริการฉุกเฉิน ผ่านทางผู้ให้บริการเครือข่ายโทรศัพท์ในพื้นที่ หลังจากนั้น Dell แพลตฟอร์ม จะรวบรวมข้อมูลเพื่อภาพรวมที่ชัดเจนและง่ายต่อการเข้าใจเกี่ยวกับสถานการณ์ต่างๆ ที่เกิดขึ้น การตอบสนอง เวลาในการตอบสนอง รวมถึงข้อมูลอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง ซึ่งจะช่วยพัฒนาความเป็นอยู่ของผู้สูงอายุในชุมชนให้ดียิ่งขึ้น
บริการดูแลสุขภาพสำหรับผู้สูงอายุในพื้นที่พัฒนาขึ้น 50%
หนึ่งในขั้นตอนของการวิเคราะห์ความเป็นไปได้ (Proof of concept: POC) คือการติดตั้งอุปกรณ์ไว้ที่บ้านของผู้สูงอายุในพื้นที่จำนวนมาก รวมไปถึงการนำระบบนี้มาปรับใช้ในบ้านพักคนชราแสนสุข ซึ่งผลการทดสอบก็ได้แสดงให้เห็นว่าระบบนี้ประสบความสำเร็จอย่างสมบูรณ์แบบ และเทคโนโลยีของ Dell ก็ได้รับการพิสูจน์แล้วว่าเชื่อถือได้100% รศ.วิรุฬห์ กล่าวว่า “เรายินดีเป็นอย่างยิ่งกับผลลัพธ์ที่ออกมา ผมประเมินแล้วว่าเราสามารถพัฒนาบริการดูแลสุขภาพผู้สูงอายุให้ตอบสนองได้รวดเร็วขึ้นอย่างน้อย 50% ด้วยการใช้สมาร์ทซิตี้เทคโนโลยีจาก Dell และผมคาดหวังเป็นอย่างยิ่งว่า Dell และระบบ IoT เพื่อสิ่งแวดล้อมทั้งระบบจะมีบทบาทสำคัญในกระบวนการพัฒนานี้”
ผู้สูงอายุที่ใช้อุปกรณ์แสดงความพึงพอใจเป็นอย่างมากกับเทคโนโลยี IoT
ระบบได้รับผลตอบรับจากผู้ใช้และครอบครัวที่ดีเยี่ยม เพราะมันทำให้ผู้สูงอายุสามารถใช้ชีวิตตามปกติที่บ้านได้ ยิ่งไปกว่านั้น มันทำให้กลุ่มผู้ที่อาศัย
ในบ้านพักคนชราก็รู้สึกปลอดภัยและใช้ชีวิตอย่างมั่นใจได้มากขึ้น เพราะพนักงานจะรู้ได้ทันทีหากมีเหตุไม่คาดฝันเกิดขึ้นกับพวกเขา รศ.วิรุฬห์ กล่าวว่า “เราได้รับผลตอบรับที่ดีเยี่ยมจากผู้คนในพื้นที่ โดย 90% ของพวกเขาพูดถึงความพึงพอใจในระบบ IoT ที่ได้รับการสนับสนุนจาก Dell และ Intel”
ผู้สูงอายุสามารถใช้งานได้อย่างเชี่ยวชาญภายในไม่กี่นาที โดยแทบจะไม่มีความจำเป็นต้องฝึกฝน
ความง่ายของระบบทำให้ระดับความพึงพอใจเพิ่มสูงขึ้น รศ.วิรุฬห์ กล่าวว่า“เราจำ ได้ขึ้นใจเลยว่าผู้ใช้หลายคนมีความรู้เกี่ยวกับเทคโนโลยีน้อยมาก แต่พวกเขากลับใช้เวลาไม่เกิน 15 – 20 นาทีเท่านั้นในการเรียนรู้ระบบ IoT ด้วยการทำ งานร่วมกับ Dell เราได้ออกแบบระบบที่เข้ากันได้ลงตัวกับผู้ใช้ อย่างสมบูรณ์แบบ”
ค่าใช้จ่ายด้านการดูแลสุขภาพก้าวสู่ทิศทางใหม่ที่ประหยัดขึ้นอย่างชัดเจน
รศ.วิรุฬห์ ตั้งเป้าหมายในอนาคตว่า ระบบติดตามสุขภาพนี้จะถูกนำ ไปในบ้านและบ้านพักคนชราในเทศบาลเมืองแสนสุขและในประเทศไทยอย่างทั่วถึงขึ้น ในกรณีของบ้านพักคนชรา ความจำ เป็นในการใช้พยาบาลเฝ้าสอดส่องดูแลผู้สูงอายุจะลดลง เพราะอุปกรณ์สวมใส่จะส่งสัญญาณเตือนโดยอัตโนมัติเมื่อตรวจพบว่าผู้สวมใส่ล้มลง นอกจากนี้ ข้อมูลด้านสุขภาพอื่นๆ
จะถูกเก็บรวบรวมเพื่อการพัฒนาการดูแลสุขภาพผู้สูงอายุในอนาคต และด้วยทางออกนี้ จะช่วยลดสัดส่วนของความต้องการพยาบาลต่อจำนวนประชากรในพื้นที่จากพยาบาล 1 คน ต่อประชากร 20 คน ไปเป็นพยาบาล1 คน ต่อประชากร 50 – 100 คน ซึ่งช่วยลดค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวกับการดูแลสุขภาพผู้สูงอายุได้ รศ.วิรุฬห์ แสดงความคิดเห็นเพิ่มเติมว่า “การเข้าสู่วัยชราของประชากรเป็นหนึ่งในความท้าทายด้านสุขภาพที่ใหญ่ที่สุดในโลกและเรากำ ลังช่วยกันก้าวข้ามความท้าทายนี้ด้วยระบบ IoT จากเทคโนโลยีของ Dell” Cr:Dell.com
#SmartCity #IotGateway #RuggedComputer #Dellserver #IotAsean#SSAnetworkตัวแทนจำหน่ายDell
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม
Tel : 064-184-7329 (k.ต๋อม), 064-184-7326 (k.เกิ้ล)
064-184-7327 (k.อุ๊), 084-088-8490 (Hot Line)
Line id : @ssanetwork (มี @ ข้างหน้า) หรือที่ Link>> Add Friend Line @ssanetwork
e-mail : sale1@ssanetwork.com, adm.office2@gmail.com
consult4@ssanetwork.com
ร่วมอัพเดทข่าวสารโลกไอที, IoT (Internet of Things) ได้ที่
facebook คลิก Like >>https://www.facebook.com/IOT.ASEAN/
คลิก Like >>https://www.facebook.com/InternetOfThings
Inbox FB : m.me/internetOfThingsThai
www.ssanetwork.com (SSA Network IoT Shop)
ขอใบเสนอราคา